Quantcast
Channel: cc :: somkiat
Viewing all articles
Browse latest Browse all 1997

สรุปการจัดการเรื่อง Application Security ของ Netflix

$
0
0

เช้านี้นั่งอ่านบทความเรื่อง Scaling Appsec at Netflix
เป็นอีกเรื่องที่สำคัญใน application ต่าง ๆ ของบริษัท
หน้าที่หลัก ๆ ของเหล่า engineer คือสร้าง product ที่มีคุณค่าต่อลูกค้า
แต่ถ้า application เหล่านั้นไม่ปลอดภัย
ก็น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบต่อ business ของบริษัทได้
ดังนั้นทาง Netflix จึงพยายามจัดการเรื่องนี้ให้ดี

โดยที่ทาง Netflix นั้นขึ้นชื่อเรื่องของ

  • Context not Control
  • Freedom and responsibility

เห็นได้จาก technology ที่หลากหลาย
ขนาดและจำนวนของทีมที่โตอย่างมาก
ดังนั้นการจัดการเรื่องของ security จึงไม่ง่ายเลย
มาดูกันว่า เขาทำอย่างไรกันบ้าง

ในบทความข้างต้น อธิบายว่าจะมี 3 ส่วนสำหรับเรื่อง security คือ

  1. Operational Appsec capabilities
  2. Appsec Automation
  3. Security Partnerships

มาดูรายละเอียดกัน

1. Operational Appsec capabilities

ในส่วนนี้ยังคงเป็นทีมและขั้นตอนการจัดการ security แบบเดิม เช่น

  • bug bounty triage
  • pentesting
  • threat modeling
  • vulnerability management
  • product security incident response

ซึ่งมีคุณค่าและประโยชน์แน่นอน
แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มักไปขัดจังหวะการทำงานของทีมพัฒนา application
ส่งผลต่อการ scale ของทีมและ product อย่างมาก

ดังนั้นจึงทำการสร้างอีก 2 ทีมขึ้นมา
เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จากการขยายทีม คือ 
Security Partnerships และ Appsec Automation
โดยที่ทีม Operational Appsec จะทำการร่วมกับ 2 ทีมนี้
เหมือนทีม Operational Appsec เป็นทีมช่วยเหลือและให้คำปรึกษา

2. Appsec Automation

มีเป้าหมายและหน้าที่เพื่อเตรียม guildline ต่าง ๆ
เรื่องการจัดการด้าน security ให้ทีมพัฒนา
ทั้งเรื่องการจัดการปัญหาว่าทำอย่างไร
ทั้งเรื่องของ self-service ต่าง ๆ ที่ทำได้เอง
ทำให้ทุก ๆ การกระทำของทีมพัฒนายังคงมีความปลอดภัยเสมอ (Secure by default)
โดยทีมนี้พยายามจะสร้างและเตรียมเครื่องมือไว้ให้ใช้งาน

ยกตัวอย่างเช่น Spinnaker 
เป็น Continuous Delivery platform 
ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถส่งมอบ product ได้อย่างรวดเร็ว
โดยที่ไม่ต้องมาจัดการ resource ต่าง ๆ ที่ใช้งานเอง
แน่นอนว่า เรื่องการจัดการด้าน security ก็เช่นกัน
ไม่ต้องมาจัดการเองทั้ง authentication, authorization และ secret storage เป็นต้น
ซึ่งช่วยจัดการและลดความเสี่ยงไปได้อย่างมาก

โดยก่อนหน้านี้จะลงทุนด้านการทำ Security scan แบบอัตโนมัติ
ในขั้นตอนต่าง ๆ ของการพัฒนา หรือเรียกว่า DevSecOps เช่น

  • Static code scanning
  • Dynamic testing
  • ค้นหารูปแบบต่าง ๆ ที่ผิดปกติใน code และ configuration ต่าง ๆ

เป็นการทำงานในแต่ละ application ไม่ตอบโจทย์ของการขยายทีม
จึงทำการปรับเปลี่ยนมาเป็น The Security Paved Road Practice
เพื่อช่วยให้ระบบ automation ปัจจุบันมีความสามารถในการจัดการด้าน security ดีขึ้น

3. Security Partnerships

การจัดการความปลอดภัยเชิงลึกนั้น
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
ดังนั้นการมี partnership จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ
ซึ่งในบทความก็ได้อธิบายว่า นี่คือการปรับปรุงในอนาคตต่อไป

นี่น่าจะเป็นหนึ่งในแนวทางของการจัดการด้าน security ของ application
มีเป้าหมายเพื่อให้แต่ละ application มี security by default
โดยระบบ ขั้นตอนและเครื่องมือที่สร้างขึ้นมานั้น
ต้องมีประโยชน์ต่อทีม application และ business
รวมทั้งต้องมีความ transparency อีกด้วย
จะได้ช่วยให้เห็นข้อมูล ปัญหาและแนวทางการแก้ไขต่อไป



Viewing all articles
Browse latest Browse all 1997

Trending Articles